อุทยานแห่งชาติศรีน่าน มีพื้นที่ประมาณ 583,750
ไร่ หรือ 934 ตารางกิโลเมตร
ครอบคลุมพื้นที่อำเภอเวียงสา อำเภอนาน้อย และอำเภอนาหมื่น
เทือกเขาสลับซับซ้อนที่วางตัวในแนวเหนือ-ใต้ ขนานกันทั้งทางทิศตะวันตก และตะวันออกแบ่งพื้นที่ออกเป็น
ฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก สองฝั่งแม่น้ำเป็นป่าเบญจพรรณและป่าเต็งรังใน
เขตเทือกเขาประกอบด้วยป่าดิบเขา ป่าดิบแล้ง ป่าสนเขา พบสัตว์ป่าหายากหลายชนิด เช่น
นกยูงซึ่งมี อยู่หลายฝูง เสือดาว เสือดำ หมี กวาง หมาป่า และหมาในมีสัตว์ป่าหลายชนิดที่สำคัญ
คือ ช้างป่า วัวแดง และกระทิง ซึ่งจะอพยพไปมาระหว่างเขตติดต่อประเทศไทย-สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
1. ดอยเสมอดาวและผาหัวสิงห์
ดอยเสมอดาว
เป็นพื้นที่ที่มีลานกว้างยนสันเขาเหมาะสำหรับการพักผ่อนชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกในเวลาเดียวกัน และยังสามารถชม ทะเลหมอกในยามเช้า ชมดาวและแสงไฟจากตัวอำเภอนาน้อยในยามค้ำคืนได้อย่างสวยงาม
ดอยเสมอดาว
เป็นพื้นที่ที่มีลานกว้างยนสันเขาเหมาะสำหรับการพักผ่อนชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกในเวลาเดียวกัน และยังสามารถชม ทะเลหมอกในยามเช้า ชมดาวและแสงไฟจากตัวอำเภอนาน้อยในยามค้ำคืนได้อย่างสวยงาม
ผาหัวสิงห์
เป็นหน้าผามีรูปร่างหมือนสิโตนอนหมอบหันหน้าไปทางทิศตะวันออกสามารถมองเห็นทิวทัศน์ ได้ 360 องศา ทิศเหนือมอง เห็นตัว อำเภอเวียงสา ทิศใต้มองเห็นทิวเขาเป็นแนวยาว ทิศตะวันออกมองเห็นผาชู้ แม่น้ำน่าน ทิศตะวันตกมองเห็นตัวอำเภอนาน้อย เกือบทั้งหมด และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกจุดหนึ่ง มีเส้นทาง เดินสำรวจธรรมชาติให้ผู้รักการปีนป่ายและการผจญภัยได้


2.ผาชู้
มีลักษณะเป็นผาหินขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านกลางขุนเขาเขียวขจีหลายแสนไร่ บริเวณเชิงผาชู้เป็นที่ตั้งที่ทำการ อุทยานฯ ในฤดูหนาว สามารถมองเห็นทะเลหมอกได้จากยอดผาชู้ และเมื่อหมอกจางลง จะมองเห็นลำน้ำน่าน ทอดตัวคดเคี้ยวอยู่ที่ปลายผืนป่าผาชู้เป็นสถานที่ ตั้งเสาธงที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ต้องร้องเพลงชาติ 12 จบกว่าจะเชิญธงชาติขึ้นสู่ ยอดเขา ซึ่งสายเสาธงมีความยาวกว่า 200 เมตร จากพื้นถึงยอดผาชู้เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นระยะทางประมาณ 2 ก.ม.ช่วงใกล้ขึ้นถึงยอดจะเป็นหินแหลมคมจึงต้อง เตรียมรองเท้าให้ กระชับไปด้วยเพื่อความสะดวกในการปีนป่าใช้เวลาในการเดินไป-กลับ ประมาณ 1 ชั่วโมง ผู้ที่ประสงค์ จะเดินขึ้นยอดผาชู้ต้องติดต่อ เจ้าหน้าที่นำทางที่อุทยานฯ
ตำนานผาชู้
กล่าวว่า เจ้าเอื้องผึ้งซึ่งเป็นคู่รักกับเจ้าจันทน์ผา จำใจต้องแต่งงานกับเจ้าจ๋วง เจ้าเอื้องผึ้งเสียใจที่ไม่ได้แต่งงานกับ คนที่ตัวเองรักจึงตัดสินใจ ฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดจากหน้าผา เจ้าจันทน์ผาตามมาพบว่า เจ้าเอื้องผึ้งได้กระโดด หน้าผาไป้แล้วจึงกระโดดหน้าผาฆ่าตัวตายตาม คนรักตกไปอยู่ใกล้กัน และเจ้าจ๋วงได้เห็นหญิงที่ตนรักกระโดด หน้าผาไป จึงรู้สึก เสียใจและตัดสินใจ กระโดดหน้าผาตามลงไปด้วย แต่กระเด็นห่างออกไปด้วยความรักแท้ ระหว่างเจ้าเอื้องผึ้งและเจ้าจันทน์ผา ในชาติต่อมาเจ้าเอื้องผึ้ง จึงเกิดเป็นดอกกล้วยไม้เกาะอยู่ ใต้ต้นจันทน์ผา และเจ้าจ๋วงก็เกิดเป็นต้นสนณ จุดที่ตกไปนั้นเอง ( “จ๋วง” เป็นภาษาเหนือแปลว่า ต้นสน “เอื้องผึ้ง” แปลว่ากล้วยไม้) หน้าผาแห่งนี้จึงได้ชื่อว่า “ผาชู้” นับแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
มีลักษณะเป็นผาหินขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านกลางขุนเขาเขียวขจีหลายแสนไร่ บริเวณเชิงผาชู้เป็นที่ตั้งที่ทำการ อุทยานฯ ในฤดูหนาว สามารถมองเห็นทะเลหมอกได้จากยอดผาชู้ และเมื่อหมอกจางลง จะมองเห็นลำน้ำน่าน ทอดตัวคดเคี้ยวอยู่ที่ปลายผืนป่าผาชู้เป็นสถานที่ ตั้งเสาธงที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ต้องร้องเพลงชาติ 12 จบกว่าจะเชิญธงชาติขึ้นสู่ ยอดเขา ซึ่งสายเสาธงมีความยาวกว่า 200 เมตร จากพื้นถึงยอดผาชู้เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นระยะทางประมาณ 2 ก.ม.ช่วงใกล้ขึ้นถึงยอดจะเป็นหินแหลมคมจึงต้อง เตรียมรองเท้าให้ กระชับไปด้วยเพื่อความสะดวกในการปีนป่าใช้เวลาในการเดินไป-กลับ ประมาณ 1 ชั่วโมง ผู้ที่ประสงค์ จะเดินขึ้นยอดผาชู้ต้องติดต่อ เจ้าหน้าที่นำทางที่อุทยานฯ
ตำนานผาชู้
กล่าวว่า เจ้าเอื้องผึ้งซึ่งเป็นคู่รักกับเจ้าจันทน์ผา จำใจต้องแต่งงานกับเจ้าจ๋วง เจ้าเอื้องผึ้งเสียใจที่ไม่ได้แต่งงานกับ คนที่ตัวเองรักจึงตัดสินใจ ฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดจากหน้าผา เจ้าจันทน์ผาตามมาพบว่า เจ้าเอื้องผึ้งได้กระโดด หน้าผาไป้แล้วจึงกระโดดหน้าผาฆ่าตัวตายตาม คนรักตกไปอยู่ใกล้กัน และเจ้าจ๋วงได้เห็นหญิงที่ตนรักกระโดด หน้าผาไป จึงรู้สึก เสียใจและตัดสินใจ กระโดดหน้าผาตามลงไปด้วย แต่กระเด็นห่างออกไปด้วยความรักแท้ ระหว่างเจ้าเอื้องผึ้งและเจ้าจันทน์ผา ในชาติต่อมาเจ้าเอื้องผึ้ง จึงเกิดเป็นดอกกล้วยไม้เกาะอยู่ ใต้ต้นจันทน์ผา และเจ้าจ๋วงก็เกิดเป็นต้นสนณ จุดที่ตกไปนั้นเอง ( “จ๋วง” เป็นภาษาเหนือแปลว่า ต้นสน “เอื้องผึ้ง” แปลว่ากล้วยไม้) หน้าผาแห่งนี้จึงได้ชื่อว่า “ผาชู้” นับแต่บัดนั้นเป็นต้นมา

บ้านพักและสิ่งอำนวยความสะดวก
มีบ้านพักไว้ให้บริการนักท่องเที่ยว จำนวน 3 หลัง และเต็นท์ให้เช่า ราคาหลังละ 225 บาท นอนได้ 3 ท่าน แผ่นรองนอน 20 บาท ถุงนอน 30 บาท หมอน 10 บาท
(ราคานี้ของปี 2555 อาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาสอบถามทางอุทยานอีกครั้ง)
ติดต่อและสอบถามรายละเอียดได้ที่ 054 731 714
- อุทยานแห่งชาติศรีน่าน ตู้ปณ. 14 ตำบลศรีสะเกษ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน 55150 โทร. 054 701106 หรือกรมอุทยานแห่งชาติฯ โทร 02 579 7223 , 02 561 2919 ต่อ 724 ,725 ,, www.dnp.go.th
ที่ทำการอุทยานแห่งชาติศรีน่านและร้านอาหาร

การเดินทางไปอุทยานแห่งชาติศรีน่าน
- อุทยานแห่งชาติศรีน่าน ตู้ปณ. 14 ตำบลศรีสะเกษ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน 55150 โทร. 054 701106 หรือกรมอุทยานแห่งชาติฯ โทร 02 579 7223 , 02 561 2919 ต่อ 724 ,725 ,, www.dnp.go.th
ที่ทำการอุทยานแห่งชาติศรีน่านและร้านอาหาร


การเดินทางไปอุทยานแห่งชาติศรีน่าน
1. โดยรถยนต์ส่วนตัว
อุทยานแห่งชาติศรีน่านอยู่ห่างจากตัวอำเภอนาน้อย 20 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 1083 สายนาน้อย-ปางไฮ ระหว่างทางมี จุดชมวิว ที่สามารถมองเห็นเทือกเขาที่อยู่ในเขตอุทยานฯ และแม่น้ำน่านที่ไหล คดเคี้ยว ได้อย่างชัดเจน แม่น้ำน่านไหลผ่านอุทยานฯ ไปจนถึงอำเภอปากนาย
2.โดยรถประจำทาง
ใช้รถสายกรุงเทพฯ-น่าน ลงที่อำเภอเวียงสา แล้วต่อรถประจำทาง สายเวียงสา-นาน้อย-นาหมื่น ลงที่
อุทยานแห่งชาติศรีน่านอยู่ห่างจากตัวอำเภอนาน้อย 20 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 1083 สายนาน้อย-ปางไฮ ระหว่างทางมี จุดชมวิว ที่สามารถมองเห็นเทือกเขาที่อยู่ในเขตอุทยานฯ และแม่น้ำน่านที่ไหล คดเคี้ยว ได้อย่างชัดเจน แม่น้ำน่านไหลผ่านอุทยานฯ ไปจนถึงอำเภอปากนาย
2.โดยรถประจำทาง
ใช้รถสายกรุงเทพฯ-น่าน ลงที่อำเภอเวียงสา แล้วต่อรถประจำทาง สายเวียงสา-นาน้อย-นาหมื่น ลงที่
สามแยกบ้านใหม่แล้วเหมารถสองแถว เข้าอุทยานฯ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น