บ่อเกลือ ตั้งอยู่ใน อ. บ่อเกลือ อยู่ห่างจากตัวเมืองน่าน ประมาณ 80 กิโลเมตร
มีชื่อเสียงในด้านการทำเกลือบนภูเขาที่ไม่มีที่ใดเหมือน
เกลือสินเธาว์เพื่อบริโภคและจำหน่ายเป็นรายได้อีกทางหนึ่ง
บ่อเกลือนี้มีมาแต่โบราณและนำไปจำหน่ายยังกรุงสุโขทัย เชียงใหม่ เชียงตุง
หลวงพระบาง รวมถึงสิบสองปันนาจีนตอนใต้เมื่อก่อนนี้จะมีบ่อเกลือหลายบ่อ
แต่เดี๋ยวนี้ได้แห้งไปหมด เหลืออยู่เพียงสองบ่อเท่านั้น ซึ่งตั้งตั้งอยู่ที่บ้านบ่อหลวงในพื้นที่เริ่ม
ต้นของที่ราบแคบๆ ระหว่างเทือกเขาริมน้ำมาง
ซึ่งในบริเวณนี้จะเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านต่าง ๆอีก 8 หมู่บ้าน
บ้านบ่อหลวงมีบ่อเกลือสาธารณะอยู่ 2 บ่อ ชาวบ้านจะเรียกว่า
บ่อเหนือและบ่อใต้ บ่อเหนืออยู่ริมแม่น้ำบางส่วน บ่อใต้ห่างออก ไปราว 500 เมตรติดเชิงเขาท้ายหมู่บ้าน
ทั้งสองบ่อกรุขอบด้วยคอกไม้กันดินปากหลุมถล่มและ
มีนั่งร้านสำหรับยืนตักน้ำเกลืออยู่ข้าง ๆ บ่อเกลือ
ทั้งสองบ่อมีน้ำเกลือซึ่งมีความเข้มข้นสูงกว่าบ่ออื่นๆ เคยมีชาวบ้านพยายามจะขุดหาบ่อเกลือเพิ่มอีกแต่ก็ไม่สามารถพบบ่อเกลือ อีกเลย
การจะนำเกลือจากบ่อขึ้นมาต้มทำเกลือใช่ว่าจะกระทำกันได้ง่าย
ๆ ชาวบ้านจะต้องทำพิธีเลี้ยงผีเมืองและเจ้ารักษาบ่อเกลือคือ เจ้าซางคำ กันก่อน
โดยจะทำทุกปีในวันแรม 8 ค่ำเดือน 5 หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "งานแก้ม" ในสมัยก่อนเคยทำกันถึง 7
วัน แต่ปัจจุบันลดลงมา เหลือเพียง 3 วันเท่านั้นในอดีตชาวบ้าน
อำเภอบ่อเกลือจะ ทำ เกลือขึ้นเพื่อใช้ในครัวเรือน แต่เมื่อปัจจุบันถนนหนทาง
สะดวกมากขึ้น การเดินทางเข้าเมือง ก็ง่าย ชาวบ้านจึงได้ นำเกลือจากที่นี่ออกไป
จำหน่ายยังหมู่บ้านต่าง ๆ รวมถึงต่างอำเภอก็มีปัจจุบันอำเภอบ่อเกลือ สวยงาม
ด้วยภูมิ ประเทศป่าเขาเขียวขจี ควันหลงของสงครามจางหายไปและพื้นที่นี้กำลังได้
รับการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ของจังหวัดน่านที่รอคอยนักเดินทางเข้ามาสัมผัสกลิ่น
ไอของธรรมชาตและตำนานการทำเกลือบนที่สูง
การค้นพบบ่อเกลือ
สำหรับการค้นพบบ่อเกลือ
ที่บ้านบอหลวงมีการเล่าสืบต่อๆกันมา ดังนี้
มีนายพรานผู้หนึ่งมาล่าสัตว์และเห็นเหล่าสัตว์ทั้งหลายมักจะมากินน้ำ
ที่นี้เป็นประจำ เมื่อลองชิมดูถึงรู้ว่ามีรสเค็ม
ข่าวได้ล่วงรู้ถึงเจ้าหลวงภูคาและเจ้าหลวงบ่อจึงมาดูน้ำเค็ม โดยทั้งสองพระองค์ขึ้น
ไปบน ยอดดอยภูจั่นเพื่อแข่งขันกันพุ่งสะเดา(หอก)เจ้าหลวงภูคา
พุ่งออกไปทางทิศตะวันตกของลำน้ำตรงที่ตั้งหอนอกในปัจจุบันผู้คนที่
ชมการพุ่งหอกได้นำเอาหินมาก่อ
เป็นที่สังเกตุแล้วตั้งเป็นโรงหอทำพิธีที่ระลึกตอบแทนบุญคุณเจ้าพ่อทั้งสองทุกปี
ภายหลังทั้งสองพระองค์ คิดกันว่าจะนำคนที่ไหนมาอยู่เมื่อปรึกษากันแล้วจึงไปนำคนที่อยู่เชียงแสนซึ่งเป็นบรรพบุรุษของชาวบ่อหลวง
ในปัจจุบันมาหักล้างถางป่า ทำนาเกลืออยู่ที่นี้
ดังนั้นชุมชนบริเวณนี้จึงเกิดขึ้นและอาศัยกันมาจนถึงปัจจุบัน




กรรมวิธีการต้มเกลือ
ปัจจุบันชาวบ้านยังคงต้มแกลือด้วยวิธีแบบดั้งเดิม
จะตักน้ำเกลือจากบ่อส่งผ่านมาตามลำไม้ไผ่สู่บ่อพัก การทำเกลือ ของชาวบ้านบ่อเกลือ
นำน้ำเกลือที่ตักจากบ่อมาต้มในกะทะประมาณ 4-5ชั่วโมงให้น้ำเกลือระเหยแห้งจาก
นั้นก็จะนำไม้้พายมาตักเกลือใส่ตะกร้าที่แขวนไว้เหนือ
กะทะเพื่อให้น้ำเกลือไหลลงมาในกะทะทำอย่างนี้ ไปเรื่อย จนน้ำในกะทะแห้ง
หมดแล้วจึงตักน้ำเกลือจากบ่อมาใส่ลงไปใหม่หลังจากนั้น ใส่ถุงวางขาย
กันหน้าบ้านเกลือ เมืองน่านไม่มีไอโอดีนเหมือน เกลือทะเลจึงต้องมีการเติมสารไอโอดีนก่อนถึงมือผู้บริโภค
น้ำเกลือที่ตักจากบ่อ ต้มในกะทะ


ตักเกลือใส่ตะกร้า เสริมไอโอดีนใส่ถุงวางขาย


การเดินทางไปบ่อเกลือ
1. โดยรถยนต์ส่วนตัว
- จากจังหวัดน่าน ขับไปทางอำเภอสันติสุข ก่อนถึงอำเภอสันติสุขประมาณ 2 กิโลเมตร ให้เลี้ยวซ้ายจากนั้นขับตรงไปแล้วเลี้ยวขวา สู่อำเภอบ่อเกลือ
- จากจังหวัดน่าน ขับไปทางอำเภอปัว ขับไปจนถึงอำเภอปัว จากนั้นใช้ถนนสาย 1256 มุ่งหน้าอุทยานแห่งชาติ ดอยภูคาจากนั้นขับไป ตามเส้นทางมุ่งหน้าสู่อำเภอบ่อเกลือ
- จากจังหวัดน่าน ขับไปทางอำเภอสันติสุข ก่อนถึงอำเภอสันติสุขประมาณ 2 กิโลเมตร ให้เลี้ยวซ้ายจากนั้นขับตรงไปแล้วเลี้ยวขวา สู่อำเภอบ่อเกลือ
- จากจังหวัดน่าน ขับไปทางอำเภอปัว ขับไปจนถึงอำเภอปัว จากนั้นใช้ถนนสาย 1256 มุ่งหน้าอุทยานแห่งชาติ ดอยภูคาจากนั้นขับไป ตามเส้นทางมุ่งหน้าสู่อำเภอบ่อเกลือ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น